Prior history of modern science 1
ลวดลายบนผ้าโบราณที่วิจิตรบรรจง จากเปรู มีอายุราว ค.ศ.200 |
อะเล็กซานเดอร์ มาร์ชาคเขียนไว้ในบทความหนึ่ง ในนิตยสาร Science ว่าเครื่องหมายที่น่าฉงนนี้เป็นเครื่องหมายแทนการสังเกตดวงจันทร์ที่ถูกต้องแม่นยำ เมื่อสมัยนับพัน ๆ ปีก่อนสมัยประวัติศาสตร์ ข้อมูลต่าง ๆ ได้กระตุ้นเตือนให้อะเล็กซานเดอร์ มาร์ชาค พยายามจะประเมินค่าใหม่ของการมองสมัยก่อนประวัติศาสตร์ คำถามได้บังเกิดขึ้นจากหลักฐานเครื่องหมายพระจันทร์นี้ ซึ่งมีอยู่ในยุคหินเก่าช่วงต้น ต่างมีความสำคัญและมีอยู่จำนวนมาก เครื่องหมายดังกล่าวทำให้ต้องประเมินค่าใหม่ของกำเนิดวัฒนธรรมมนุษย์ อันรวมถึงกำเนิดศิลปะ สัญลักษณ์ ศาสนา พิธีกรรม และดาราศาสตร์ และทักษะอันเชี่ยวชาญที่มีอยู่ในช่วงต้นของยุคเกษตรกรรม
ดินเหนียวจารึกของบาบิโลน |
นับเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่การตำต่ำของอารยธรรมความรู้ทางวิทยาศาสตร์นั้น บางครั้งก็อยู่เหนือระดับปัญญาแห่งยุคสมัย เรื่องเหล่านี้เราพิจารณาได้จากมรดกจากโลกโบราณก่อนน้ำท่วม ร่องรอยของวัฒนธรรมผู้เชี่ยวชาญนี้ยังคงเมีอยู่หลังภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ นี่คือเหตุผลที่มีการศึกษาแหล่งโบราณต่าง ๆ ในบทนี้ ยิ่งเราก้าวลึกลงไปในอดีตเพียงใด เราก็จะยิ่งใกล้กับอารยธรรมที่สูญไปมากเท่านั้น
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (1879 -1955)
ศาสตราจารย์เฟรเดริก โซดดีเขียนไว้เมื่อ ค.ศ.1909 ว่า พลังงานปรมาณูนั้นเป็นพลังเคลื่อนเบื้องหลังเทคโนโลยีสมัยก่อนน้ำท่วมโลก เขากล่าวว่า เผ่าพงศ์ที่จะเปลี่ยนสภาพสสาร จะมีความต้องการรับอาหารเล็กน้อย เท่ากับเหงื่อบนคิ้วเท่านั้น เผ่าพงศ์ดังกล่าวจะแปลงสภาพทวีปอันแห้งแล้งเปลี่ยนขั้วโลกน้ำแข็ง และสร้างโลกทั้งปวงเป็นสวนแห่งอีเดนอันรื่นรมย์
ในมอสโก ผู้เขียนได้ยินเรื่องชีวประวัติของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ว่า ผู้คิดทฤษฎีสัมพัทธภาพ ท่านนี้ได้เสนอความคิดในทำนองเดียวกันนี้ว่า อำนาจนิวเคลียร์เป็นเพียงการค้นพบใหม่เท่านั้น กล่าวกันว่าบรรณาธิการที่ตรวจต้นฉบับตัดสินใจตัดข้อความดังกล่าวไม่ลงพิมพ์ บทความนี้ ไอน์สไตน์ เขียนไว้ก่อนถึงแก่กรรมไม่นานนัก
ศาสตราจารย์เฟเดริก โซดดี เห็นภัยพิบัติในอดีต เมื่อมนุษยชาติตัดสินฐานะของธรรมชาติและของมนุษย์ผิดไป หลังจากความผิดพลาดนี้ โลกทั้งโลกก็จมเข้าสู่สภาพดังเดิม จากนั้นมนุษยชาติก็เริ่มตรากตรำเดินทางไปข้างหน้าผ่านยุคสมัยต่าง ๆ ตำนานการตกต่ำลงของมนุษย์อาจจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติในอดีตดังกล่าวนั้นจริง ๆ ศาสตราจารย์โซดดีผู้ได้รับรางวัลโนเบลแถลง
ยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ ระหว่างกำเนิดของวัฒนธรรมในสมัยเก่าก่อนไกลโพ้น เราไม่อาจอธิบายได้อย่างชัดเจนด้วยการยืมผู้คนมาจากที่อื่น เพราะระยะห่างทางภูมิศาสตร์อันกว้างใหญ่ไพศาลเป็นตัวกีดขวางอยู่
โลกที่เร้นลับจะต้องอยู่นอกเหนือจากพรมแดนทางประวัติศาสตร์ โลกนั้นจะต้องให้พลังขับดันอย่างแรกแก่อารยธรรมทั้งปวงในสมัยต่อมา ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าชาวโรมัน กรีก บาบิโลน และอียิปต์โบราณต่างเป็นครูของโลกสมัยใหม่ แต่ผู้เป็นครูของครูของชาวอียิปต์ บาบิโลน กรีก นั้นเป็นใคร ตอบตามตำนานก็คือ ชาวแอตแลนติส เหล่านี้คือ การสะท้อนและข้อสรุปของ วาเลรี บริวซอฟ ชาวรัสเซียผู้บุกเบิกเรื่องแอตแลนติส
นับเป็นเรื่องยากที่จะลากเส้นแบ่งเขตระหว่างผลผลิตจากความฉลาดของมนุษย์ และมรดกจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยังมีข้อเท็จจริงที่ว่า การบรรลุผลทางวิทยาศาสตร์บางประการของมนุษย์ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ไม่อาจจะถือเป็นการสร้างสรรค์ของจิตใจมนุษย์ เพราะสภาพเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและสังคมยังไม่สุกงอมพอ ความก้าวหน้าที่ยังไม่สุกงอมพอนี้ได้แก่รังสีเอกซ์ ยานอวกาศโบราณ และการค้นพบทางดาราศาสตร์โดยไม่ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์
เมื่อพวกคอร์เตสบุกรุกเม็กซิโกใน ค.ศ. 1520 ปฏิทินของเขาช้ากว่าของแอซแต็ก และเวลาทางดาราศาสตร์จริงไปสิบวัน พูดในเชิงประวัติศาสตร์ก็คือ ดาราศาสตร์ของโลกเก่านั้นอยู่เบื้องหลังดาราศาสตร์ของโลกใหม่นั่นเอง ไม่น่าเชื่อเลยที่จะกล่าวไว้ในศตวรรษที่ยี่สิบนี้ว่า ปฏิทินของมายานั้นมีความถูกต้องแม่นยำกว่าของเรา เพราะให้ค่าประมาณที่ใกล้เคียงกับปีสมบูรณ์อย่างมาก ดังแสดงให้เห็นต่อไปนี้
การคำนวนตามเวลาจริง 365.242198 วันในหนึ่งปี
ปฏิทินของมายา 365.242129 วันในหนึ่งปี
ปฏิทินของกรีกอเรียน 365.242500 วันในหนึ่งปี (ปฏิทินของเรา)
ปฎิทินมายา |
อีเกอร์ตัน ไซกิส กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญก็คือการรับรู้ความจริงว่า ชาวมายาได้ก้าวไปสู่แผ่นดินใหญ่ โดยมีความสมบูรณ์ในควมมรู้ทางการเขียน คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ สถาปัตยกรรม การแพทย์ และระบบปฏิทินที่มีความแม่นยำยิ่งกว่าที่ใช้ในยุโรปกระทั่งศตวรรษที่สิบแปด ข้อสมมติฐานทั่วไปที่ว่า ชาวมายามีความรู้ก้าวหน้าไปราวร้อยปี ขณะที่โลกตะวันตกใช้เวลาสองร้อยปีหรือมากกว่านั้น สำหรับข้าพเจ้าแล้วถือว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าเรื่องการสืบต่อทางประวัติศาสตร์หรือกับสามัญสำนึกก็ตาม