อวนเนส เทพเจ้าปลา |
อวนเนสโผล่จากทะเลทุกวัน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับตัวอักษรและศิลปะและศาสตร์ในทุกสาขาแก่มนุษย์ยุคแรกเริ่มนั้น เขาสอนมนุษย์พวกแรกแห่งบาบิโลน “ให้รู้จักการสร้างเมือง การสร้างอาคาร การรวบรวมกฎหมายและอธิบายถึงหลักฐานความรู้เรื่องเรขาคณิต” ชาวบาบิโลนสมัยแรก ๆ ยังได้รับคำสอนเรื่องเกษตรกรรม โดยเบโรซุสกล่าวว่า “กล่าวสั้น ๆ ก็คือ เขาได้สั่งสอนชาวบาบิโลนในทุกสิ่ง อันจะทำให้พวกเขามีความเป็นอยู่อย่างเป็นมนุษย์ และมีพฤติกรรมที่นุ่มนวลขึ้น”
พงศาวดารนี้กล่าวว่า นับแต่อวนเนสและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอื่น ๆ ปรากฏตัวแล้ว “ไม่มีวัตถุอื่นใดปรากฏเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาคำสอนนี้เลย”
เบโรซุสบอกเราว่า หัวของอวนเนสนั้นอยู่ในหัวปลาอีกชั้นหนึ่ง นี่ไม่ใช่การพรรณนาถึงอวกาศ ที่เราจะเห็นภาพมนุษย์จากหมวกนั้นหรอกหรือ ? เท้าที่ติดกันอย่างหางปลานั้น ก็เป็นชุดรักษาความดันอากาศนั่นเอง คนสมัยดั้งเดิมนั้นจะสรรหาคำที่เหมาะสมมาพรรณนา ผู้เยี่ยมเยือนผู้ประหลาดนั้นได้อย่างไร หากไม่เปรียบเทียบกับสิ่งที่ตนรู้จัก
สัตว์โลกเหล่านี้จะเป็นใครก็ตาม ความจริงก็ได้ประกาศตนอย่างทันทีหลังจากการมาเยือนนั้น เมื่อมนุษย์เริ่มสร้างนคร ขุดคลอง และสำรวจอาณาจักรแห่งความคิดทางนามธรรม นับแต่นั้นศิลปะ ดนตรี ศาสนา และวิทยาศาตร์ก็ถือกำเนิดในนครบาบิโลน
ผู้อาศัยในลุ่มน้ำยูเฟรติส มีรูปร่างคล้ายสัตว์ ก่อนสมัยอวนเนส และได้รับอารยธรรม และบรรลุถึงพัฒนาการทางปัญญาในขั้นสูงหลังจากอวนเนสเมื่อสองพันปีก่อนคริสตกาล นักคณิตศาสตร์แห่งบาบิโลนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องพีชคณิตและเรขาคณิตมาแล้ว นักดาราศาสตร์มีตารางพีชคณิตที่ละเอียดแม่ยำ และรู้ตำแหน่งเทหะวัตถุในท้องฟ้าในเวลาต่าง ๆ และเรื่องทั้งหมดเริ่มจากเจ้าสัตว์รูปร่างคล้ายปลา ผู้โผล่จากท้องน้ำแห่งอ่าวเปอร์เซียนั่นเอง
อวนเนสแห่งเอริดูนั้น กล่าวกันว่าเป็นบิดาแห่งวิชาหลอมโลหะ มีบทสวดกล่าวถึงอวนเนสว่า “ท่านนั่นแลผู้ผสมทองคำและเงินบริสุทธิ์ กับทองแดงและดีบุก” สำริดเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงและดีบุก โดยมีดีบุกหนึ่งในสิบส่วน นับว่ามนุษย์จะต้องใช้เวลานานทีเดียวที่จะค้นพบสัดส่วนดีบุกกับทองแดง เพื่อให้ได้โลหะที่แข็งแรง เว้นเสียแต่ความลับนี้ได้รับมาเป็นกำนัลจากอารยธรรมที่มีความรู้สูงกว่า ยุโรปมียุคสำริดอยู่นาน แต่ยุคทองแดงนั้นสั้นมาก วัตถุสำริดนั้นดูเหมือนปรากฏขึ้นทันใดและกระจายไปทั่ว วัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในยุโรปนั้น แสดงถึงเครื่องหมายของงานฝีมืออันประณีต
การกระจายอย่างกว้างไกลของวัตถุสำริดในยุโรปนั้น ทำให้เราได้ข้อสรุปที่น่าตื่นเต้นว่า ในยุคสมัยอันไกลโพ้นมานั้น มีการติดต่อระหว่างส่วนต่าง ๆ ของทวีป มากกว่าเมื่อรุ่งอรุณแห่งประวัติศาสตร์โรมันโบราณด้วยซ้ำ นี่เป็นร่องรอยบ่งชี้ถึงการผลิตอย่างมีความชำนาญ และการขนส่งที่ทำได้อย่างง่ายดาย
ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปริศนาเรื่องยุคสำริดนั้นมิได้จำเพาะอยู่ในยุโรปเท่านั้น หากยังมีในอเมริกากลาง ซึ่งมีสำริดมาแล้วจากแห่งที่เราไม่ทราบ
นักเขียนชาวเยอรมันท่านนั้นยังตั้งทฤษฎีที่ว่า วิชาเล่นแร่แปรธาตุนั้น เกิดขึ้นในยุคแอตแลนติส ทองคำที่ประดิษฐ์ขึ้นนั้นถูกนำลงเรือจากแอตแลนติสไป เพื่อจุดหมายพิเศษทางศาสนา เหล่านักบวชแห่งซูเมอร์ อินเดีย และอียิปต์ ต่างสงวนรักษาศาสตร์ลี้ลับนี้ไว้กับพวกของตนเอง
จากการนำโลหะผสมจากดินแดนอื่น ทำให้การปฏิวัติทางเทคนิคได้เริ่มก่อร่างอารยธรรมใหม่หลังน้ำท่วมใหญ่
วัตถุโลหะของสุเมเรียนนั้น มีการขุดพบในรัสเซียตอนใต้ เมืองทรอย และยุโรปภาคกลาง ครั้งเมื่อประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล วัฒนธรรมดีบุก สำริดที่ล้ำเลิศกว่าก็หายไปจากสุเมเรียน เหตุผลใหญ่ก็คือ ไม่มีดีบุก การหลอมโลหะสมัยก่อนประวัติศาสตร์จึง ๆ หายไป และลืมไป รอการค้นพบใหม่ในหลายศตวรรษต่อมา