หน้าเว็บ

Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

รายงาน..ลับ..ที่ไม่เปิดเผย


รายงานลับ..ที่ไม่เปิดเผย 
(Report .. secret .. that was not disclosed.)
ค้นหา นักเขียนชาวเยอรมันชื่อ เค.เค. โดแบเรอร์ ได้เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง ช่างทำทอง (The Gold makers) แสดงความคิดของตนว่า “ในมุมมองของมนุษย์ผู้ชาญฉลาดแห่งแอตแลนติสแล้ว ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือ การอพยพหนีจากภัยพิบัติ โดยรุกผ่านไปยังเมดิเตอร์เรเนียน และเคลื่อนต่อไปทางตะวันออก เข้าไปยังแผ่นดินแห่งเอเชีย และก่อตั้งอาณานิคมบน ‘หลังคาโลก’ ”
             
นี่คือการคะเนที่น่าตื่นตะลึง และอาจจะไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงมากนัก เจ้านาย และนักบวชชั้นสูงของ ‘เทพเจ้าผู้ประเสริฐ’ อาจจะถูกยกขึ้นไปในอากาศ ถึงยังพื้นที่ส่วนที่ปลอดภัยและไกลโพ้นจากพื้นดิน พร้อมกับผลพวงทั้งปวงจากเทคโนโลยีและวัฒนธรรมของตน ในชุมชนเล็ก ๆ ที่แยกตัวออกมาสมบูรณ์นั้น พวกเขาอาจจะพัฒนาวิทยาศาสตร์ขั้นสูงในระดับที่นักปราชญ์ของเราเองก็ไม่เคยฝันถึง และมีหลักฐานที่จะเพิ่มน้ำหนักแก่ทฤษฎีเพ้อฝันอย่างเด่นชัดนี้
         
ในมหากาพย์มหาภารตะ เราได้ทราบเรื่องยุคโบราณที่มียานอวกาศเหาะอยู่ในท้องฟ้า และมีการทิ้งระเบิดลงมาถล่มยังนครต่าง ๆ สงครามเป็นไปอย่างดุเดือด และตัวร้ายที่ครองอำนาจก็ยังไม่สยบ จากตำนานและงานเขียนสมัยโบราณจากเผ่าพงศ์มนุษย์มากมายนั้น นับว่าเป็นไปได้ที่จะย้อนคืนภาพสิ่งต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนภัยพิบัติทางธรณีวิทยา
           
เมื่อนักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญาเรืองนามสำนักหนึ่ง รับรู้ความจริงที่ว่า วัฒนธรรมถูกกำหนดชะตากรรมไว้แล้ว และความก้าวหน้าของมนุษยชาติถูกทำลาย พวกเขาจึงตัดสินใจถอนตัวไปยังพื้นที่ส่วนที่ติดต่อได้ยาก มีการก่อสร้างที่กำบังภัยเร้นลับใต้พิภพในภูเขา หุบเขาเร้นลับในเทือกเขาหิมาลัยเป็นทำเลที่กำหนดไว้สำหรับคนที่ได้รับเลือกจำนวนไม่มากนัก ให้นำคบไฟแห่งความรู้แจ้งไปสู่อนาคต
             
เมื่อมหาสมุทรกลืนอาณาจักรแอตแลนติส อาณานิคมที่เหลือรอดถูกทิ้งไว้โดยสภาพสมบูรณ์เป็นเมืองในฝัน เพื่อเลี่ยงความเข้าใจผิดเรื่องอาณาจักรถูกทำลาย ชนเหล่านี้ปราศจากความล้าหลังทางวัฒนธรรม และความโง่เขลาและประสบความรุ่งเรืองอยู่ในพื้นที่อันปลอดภัยต่าง ๆ กัน นับเป็นการแก้ปัญหาจากจุดเริ่มต้น เพื่อตัดขาดความผูกพันทั้งปวงกับโลกภายนอก เมื่อไม่มีพันธะใด ๆ ศาสตร์ของพวกเขาก็รุ่งเรือง บรรลุผลถึงความสำเร็จตามแบบฉบับของแอตแลนติส
             
นี่เป็นเรื่องเพ้อฝันหรือไร? มีนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันนี้จำนวนหนึ่งเสนอเรื่องที่กำบังภัยใต้พิภพ และแม้แต่นครใต้สมุทร เพื่อจะใช้ในเหตุการณ์ทำลายล้างจากระเบิดปรมาณู ประชากรที่ลดน้อยลงและการสร้างเมืองใต้พิภพเป็นโครงงานที่เสนอโดยผู้มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผู้มีความสำนึกรับผิดชอบเพื่อคุ้มครองเผ่าพงศ์มนุษย์ให้ยั่งยืนต่อเนื่องไป หากแผนการนี้เป็นที่เฝ้าจับตามองจากนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันแล้ว จะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือ ที่โครงการทำนองเดียวกันนี้เคยเสนอและดำเนินการโดยผู้นำวัฒนธรรมแห่งแอตแลนติสเมื่อเผชิญกับการเสื่อมโทรมทางศีลธรรมของมนุษยชาติ และภัยคุกคามจากอาวุธแห่งพรหม ซึ่งระเบิดแสงจ้ายิ่งกว่าพระอาทิตย์นับหมื่นดวง
             
ภาพของสภาวะอันรุนแรงจากเทคโนโลยีก้าวหน้าในยุคที่ถูกลืมนั้น ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนในกรอบความคิดทางวิทยาศาสตร์อันเฉลียวฉลาด ศาสตราจารย์เฟรเดริก โซดดี นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ผู้บุกเบิก ได้พยายามอธิบายเรื่องเล่าเชิงวิทยาศาสตร์จากสมัยโบราณ โดยกล่าวไว้เมื่อ ค.ศ.1909 ว่า “(เรื่องเล่า) อาจจะเป็นเสียงสะท้อนจากยุคสมัยเก่าก่อนประวัติศาสตร์ของโลก ที่ไม่มีใครบันทึก จากยุคสมัยเมื่อมนุษย์ท่องไปบนถนน ก่อนที่เราได้ใช้อยู่ในทุกวันนี้”
           
การรักษาผลผลิตทางอารยธรรมสำหรับช่วงเวลาอันเป็นนิรันดร์ เพื่อป้องกันอันตรายจากสงครามทำลายล้าง และภัยพิบัติทางธรณีวิทยา ไม่มีสิ่งใดจะมีประสิทธิภาพอันยิ่งไปกว่าการใช้ที่กำบังใต้พิภพ นี่เป็นเรื่องของวันนี้ ที่เป็นเช่นเดียวกับในสมัยแอตแลนติส
           

จากประวัติศาสตร์ของชีวิตมนุษย์บนดาวเคราะห์ดวงนี้ มีหลายหน้าที่ขาดหายไปด้วยน้ำมือของกาลเวลา อย่างไรก็ตาม ตำนานก็ได้กล่าวถึงภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงที่กวาดเอาอารยธรรมอันก้าวหน้าหายไป ผู้เหลือรอดส่วนใหญ่กลายเป็นผู้ด้อยความเจริญ ผู้ที่ได้รับการฟื้นฟูในกาลต่อมาจากทูตสวรรค์จึงผุดขึ้นมาจากสภาพด้อยความเจริญ และให้กำเนิดชาติแห่งประวัติศาสตร์โบราณจากจุดที่เราถือกำเนิดมา ชุมชนลึกลับแห่งโอรสพระอาทิตย์นั้นมีขนาดเล็กก็จริง แต่มีความรู้อันยิ่งใหญ่จากวิทยาศาสตร์ขั้นสูง พวกเขาได้ขุดอุโมงค์โยงใยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในเอเชีย
           
การแยกตัวเป็นเอกเทศนับเป็นกฎอมตะของอาณานิคมเหล่านี้ นักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ กวี ศิลปิน ผู้อุทิศตนเพื่อศาสนา นักเขียน และนักดนตรี ต่างต้องการสภาพแวดล้อมที่มีความสงบ เพื่อจะทำงานของตนได้ พวกเขาไม่ต้องการได้ยินเสียงเดิน เสียงรองเท้าทหาร หรือเสียงร้องเร่ในตลาด การแยกตัวออกไปนี้เป็นพฤติกรรมการป้องกันตัวโดยธรรมชาติของพวกเขานั่นเอง
             
การหายลับไปในหุบเขาลับระหว่างเทือกเขาหิมะ หรือซ่อนอยู่ในอุโมงค์ใต้ภูเขา ทำให้ช่วยปกป้องชีวิตของเผ่าพงศ์มนุษย์ไว้ได้ การชี้นำถึงความเป็นจริงเรื่องอาณานิคมเหล่านี้ มาจากดินแดนต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายจอย่างกว้างขวาง เช่น อินเดีย อเมริกา ทิเบต รัสเซีย มองโกเลีย และส่วนอื่น ๆ ของโลก รายงานเหล่านี้ปรากฏในอดีตเมื่อห้าพันปีมาแล้ว โดยอยู่นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่แห่งกาลเวลา แม้จะมีเรื่องเพ้อฝันเพิ่มเติมเข้ามาจากผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนต่าง ๆ แต่รายงานเหล่านั้นก็ยังประกอบไปด้วยเชื้อแห่งความเป็นจริงอยู่

ด็อกเตอร์เฟอร์ดินันด์ โอสเซนดอร์สกี้ แห่งราชบัณฑิตประเทศฝรั่งเศส ได้เขียนเรื่องประหลาดที่ฟังจากเจ้าชายจุลตุน เบย์ลี และพระลามะในมองโกเลีย เมื่อราวห้าสิบปีก่อน ความว่าเคยมีทวีปสองแห่งในมหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งสองทวีปได้จมลงสู่ทะเลลึก แต่ประชากรบางส่วนในทั้งสองทวีปได้อพยพไปสู่ที่หลบภัยอันกว้างใหญ่ใต้พิภพ ถ้าเหล่านั้นมีแสงประหลาดที่ให้การเติบโตแก่พืชพันธุ์ และให้ชีวิตแก่เผ่าผู้สูญไปจากมนุษยชาติสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เผ่าพงศ์นั้นได้ก้าวถึงวิทยาศาสตร์ในระดับสูงแล้ว
นักปราชญ์เชื้อสายโปแลนด์ท่านนี้กล่าวว่า ผู้คนใต้น้ำแห่งอะฆารดีนั้นบรรลุถึงความสำเร็จทางเทคนิคอย่างใหญ่หลวง มีรถพิเศษที่แล่นไปด้วยความเร็วสูง ผ่านเครือข่ายในอุโมงค์โยงใยอันกว้างใหญ่ในเอเชีย พวกเขาได้ศึกษาถึงชีวิตในโลกอื่น แต่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพวกเขานั้นอยู่ในขอบเขตเรื่องจิตใจ
             
ในการเดิทางผ่านเตอรกีสถานของจีนหรือซินเกียง นักสำรวจและศิลปินผู้มีชื่อ นามว่า นิโคลัส เรอริช ได้เห็นระเบียงใต้ดินยาว ประชากรในที่นั้นบอกเขาว่ามีคนประหลาดโผล่มาจากอุโมงค์ใต้ดินเพื่อไปจับจ่ายในเมืองอยู่ที่จากัน กุเร ใกล้กับเมืองกัลป์กันในประเทศจีน เมื่อ ค.ศ.1935 เรอริชได้เขียนบทความชื่อ “ผู้พิทักษ์” เขาตั้งคำถามว่า “หากมีคนลึกลับนั้นปรากฏในท่ามกลางทะเลทราย ราวกับออกมาจากที่ลับแล้ว พวกเขามิได้มาจากเส้นทางใต้ดินหรอกหรือ?” นิโคลัส เรอริชถามชาวมองโกลเรื่องผู้มาเยือนลึกลับเหล่านี้ พวกเขาให้ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจแก่เรอริชหลายอย่างด้วยกัน กล่าวคือ คนต่างถิ่นมักจะขี่ม้ามา และเพื่อมิให้น่าสงสัยมากนัก พวกเขาจึงสวมเสื้อผ้าอย่างพ่อค้า คนเลี้ยงสัตว์ หรือทหาร พวกมองโกลมักจะได้ของกำนัลจากคนเหล่านี้ด้วย
 

หลักฐานเรื่องมนุษย์ที่มีชื่อเสียงระดับชาติ และความสำเร็จทางศิลปะและทางวิชาการนี้ ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้เลยสักนิด และผู้เขียนเองได้รับสิทธิพิเศษอย่างยิ่งให้ได้พบกับนักสำรวจท่านนี้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หลังจากท่านได้เดินทางสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 1935
             
เห็นจะต้องระบุไว้เสียตรงนี้ว่า ศาสตราจารย์เรอริชและสมาชิกในคณะได้เฝ้าดูแผ่นจานแวววาวใบหนึ่งเหนือเทือกเขาคาราโครัม เมื่อปี ค.ศ.1926 ตอนนั้นเป็นเวลาเช้าแสงแดดสดใส และวัตถุดังกล่าวเห็นชัดเจนจากกล้องส่องทางไกลกำลังสูงสามกล้อง ต่อมายานรูปวงกลมนั้นเปลี่ยนเส้นทางทันที เมื่อสี่สิบปีก่อนเรายังมีมีเครื่องบินหรือบอลลูนในเอเชียกลาง ดังนั้นอากาศยานลำนั้นมาจากอาณานิคมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ใช่หรือไม่?
             
มาดามเอ. เดวิด-นีล นักสำรวจทิเบต ได้เขียนเรื่องนักขับโคลงของทิเบตคนหนึ่ง เป็นที่เลื่องลือว่ารู้จัก “วิมานแห่งเทพเจ้า” ในบริเวณทะเลทรายอ้างว้าง และเทือกเขาในมณฑลซินไห่ ประเทศจีน ครั้งหนึ่งเขานำดอกไม้สีฟ้าแห่งฤดูร้อนจากสถานที่นั้นไปให้มาดามเดวิด-นีล หากแต่เวลานั้นบริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งถึง 20 องศา และแม่น้ำดิชูก็เป็นน้ำแข็งลึก 6 ฟุต

รายการบล็อกของฉัน